กลับมาเข้าเรื่อง ตอนนี้ “โอโม่” ดูเหมือนว่าจะแบ่งกลุ่มลูกค้าผ้าขาวแล้ว แต่เดิมจะเป็นกลุ่มนักเรียน และนักศึกษามาซะมากกว่า แล้วตอนนี้ก็มาจับกลุ่มคนวัยทำงานหรือกลุ่มคน First job โดยใช้กลยุทธ์เรื่องของการสร้างความโดดเด่นจากเสื้อขาวเข้ามาช่วยทำให้เด่นได้ ดูจากโฆษณาตัวก่อนหน้านี้ที่ จะไปสมัครงานเป็นแอร์ฯ แต่ความสูงไม่มากนัก แต่ได้เสื้อสีขาวทำให้ตัวเอกเด่นขึ้นมาในสายตากรรมการ แล้วตอนนี้โฆษณาตัวที่ออกมาเป็นนักข่าวทำงานอย่างขยัน ทุมเท แต่ภาพลักษณ์เสื้อที่ใส่มันหม่นหมอง ต้องปรับปรุงตัวเองใหม่โดยการใช้ “โอโม่” เข้ามาช่วยในเรื่องของเสื้อขาว ตรงนี้มี 2 ประเด็น
1. สังเกตได้ว่าเธอซักผ้าด้วยมือ แล้วมันแปลกตรงไหน การซักผ้าด้วยมือไม่แปลกแต่ นักข่าวคนนี้เอาผ้ามาซัก กลางแจ้ง ??? นั่นหมายความว่าอย่างไร โฆษณาตัวนี้ตั้งใจจะบอกว่ากลุ่มป้าหมายของพวกเขาคือกลุ่มคนที่ซักผ้าด้วยมือ ผมว่ามีหลายบ้านยังคงซักผ้าด้วยมือ มันเป็นการกระตุ้นเรื่องที่ว่า “โอโม่” นี้ซักผ้าด้วยมือแล้วมันมีฟอง ซักแล้วมัน ซักแล้วมีพลัง มีความมั่นใจ มันดีกับเสื้อผ้าของเรานะ คุณลองซักดูบ้างซิ
2. เรื่องของโอกาสที่จะมาใกล้สำหรับคนที่เตรียมตัวได้ดีหรือมีความพร้อมที่สม่ำเสมอพอมีโอกาสมาอยู่ตรงหน้าแล้วจะมีสิทธิ์คว้ามันได้เลยดีกว่าคนที่ไม่ได้เตรียมพร้อมอะไรเพราะว่าหลังจากเธอใช้ “โอโม่” แล้วเสื้อของเธอจะขาวเด่นทำให้มีสิทธิ์ได้เป็นตัวเลือกที่ดีๆ แล้วมาก่อนเสมอ
และแล้วตอนจบนักข่าวหญิงคนนี้ก็มีโอกาสได้งานเด่นๆ กลับมาจากความสามารถของเธอแล้วดูรูปลักษณ์โดดเด่น แค่ตอนจบก็โดนใจแล้ว เมื่อความขาวไม่ได้มีแค่ความสะอาดแต่มันมากับความพร้อมในเรื่องต่างๆ ที่ดีๆ ก็จะตามมา
สุดท้ายแล้วต้องมาดูกันต่อไปว่าครั้งหน้าโฆษณา “โอโม่” จะมีอะไรเรื่องอะไรมาสร้างแรงจูงใจกับลุกค้าอย่างเราอีกบ้าง เขาการทำโฆษณาออกมาอีกแน่ เพราะมันเสมือนเป็นการตอกย้ำในตัวสินค้าที่จะให้ติดใจติดตาลูกค้า “ผ้าขาวต้อง โอโม่” แล้วผ้าของคุณจะขาว โดดเด่นและเป็นตัวเลือกแรกๆ เสมอ…
0 comments